จากพระธาตุดอยสุเทพ ขันรถตรงขึ้นไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะถึง พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นพระตำหนักแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
ด้านหน้าก่อนทางเข้า พระตำหนักภูพิงค
ต้องแต่งกายให้สุภาพ ถ้าไม่ก็จะมีบริการเช่าชุดเสื้อ กางเกง ใส่แล้วสวมทับไปเลยเพื่อความเรียบร้อย
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า เรือนหมู่ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย ภายในประกอบไปด้วยท้องพระโรง ห้องเสวย ห้องบรรทม และห้องสรง สำหรับพระราชอาคันตุกะ ตั้งอยู่คนละด้าน มีเฉลียงใหญ่ และพลับพลาหอนกเป็นที่ประทับทอดพระเนตรทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ ชั้นบนเป็นที่ประทับ ชั้นล่างเป็นที่อยู่มหาดเล็ก และคุณข้าหลวง
ดอกไม้ล้วนสวยงาม นานาพันธุ์
ทั้งดอกไม้ทั้งบรรยากาศ เหมือนดั่งวิมานจริงๆ
อดใจไม่ได้ที่จะหยุดชื่นชม หากใครได้มาเที่ยวพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ในฤดูหนาวจะตื่นตาตื่นใจไปกับดอกไม้หลากชนิดหลากสายพันธุ์
ดอกไม้บานสะพรั่ง ชูช่อ
ความสวยงามบริเวณโดยรอบ ใต้ร่มเงา ของธรรมชาติ
เดินลัดเลาะจนเหนื่อยแล้วก็มาถึงทางขึ้นอ่างเก็บนำ้ ก็คงต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้นอยู่
ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่หลายร้อยไร่ และมากมายด้วยดอกไม้ดั่งสวรรค์ ถ้าต้องการที่จะเดินชื่นชมเก็บภาพไปเรื่อยๆก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แต่ถ้ามีผู้สูงอายุเดินทางมาด้วยจะเลือกนั่งรถแล้วมีคนบรรยายก็สะดวกดีไปอีกแบบ
ความงามของดอกไม้แต่ละชนิด ถ้าได้มาเห็นของจริงงามเกินกว่าจะบรรยายได้ เลยอดที่จะเก็บภาพมาฝากไม่ได้ซะตั้งหลายภาพ
โดยรอบจะมีดอกไม้หลากชนิด อยู่ทั่วไป สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบดอกไม้ รักภูเขา และความหนาวคงไม่ผิดหวัง
ประกอบกับความหนาว อากาศเย็น ยืนมองท้องฟ้าเมฆลอยผ่านเหมือนอยู่แค่เอื้อม
สวรรค์บนพื้นพิภพยามเช้าในฤดูหนาว ที่เป็นเสมือนทิพย์พิมานในเทพนิยาย
มีหลายอย่างให้เลือกทาน ด้วยบริเวณที่กว้างขวาง แล้วได้เลือกวิธีเดิน ได้เหงื่อพอควร เหนื่อยมิใช่น้อย
เดินเหนื่อยแล้ว ก็หยุดพักดื่มนำ้แก้กระหาย แล้วค่อยไปต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น