26 ม.ค. 2554

ดอยปุย

   จากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เดินทางประมาณ 3 กิโลเมตรก็จะถึงหมู่บ้านม้งดอยปุย
                                                                     
                     เมื่อขับรถไปถึงปรากฎว่าด้านหน้าไม่มีที่จอดรถ เลยขับเลยเข้าไปจอดที่จอดรถของโรงเรียน ซึ่งเค้าทำเป็นที่รับจอดรถ จ่ายค่าจอด 30 บาท ไม่จำกัดชั่วโมง
    เดินเข้ามาดูด้านในลักษณะ เป็นหมู่บ้านมีร้านค้า ขายสินค้าของชาวบ้าน ตลอดแนว
            เดินเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะเข้าชม สวนนำ้ตกดอยปุย โดยที่ระหว่างทางก็ได้เพลิดเพลินและก็ชมสินค้าไปเรื่อยๆ
                                                                               
        ผลิตภัณท์ของชาวเขา มีมากมายให้ได้เลือก ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนๆในเชียงใหม่ดูเหมือนว่าจะเห็นสินค้าจำพวกเหล่านี้อยู่ทั่วไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สินค้าพวกนี้สวย และมีเสน่ห์ ดึงดูดความสนใจได้มากทีเดียว

    เสื้อผ้าของชนเผ่าต่างๆมีไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เช่าถ่ายรูป มีหลายไซส์ หลายขนาด นี่ก็คือเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง และก็มีนักท่องเที่ยวหลายๆคนมาเพื่อ จะใส่ชุดชาวเขาถ่ายรูปโดยเฉพาะ
                                                                               

                     ดอกฝิ่นก็มี ปลูกไว้ให้ได้เห็น สลับกับดอกไม้พันธุ์ต่างๆ

                     เดินเข้ามาจนถึงสวนนำ้ตกดอยปุย ไม่ได้ใหญ่มาก แต่นำ้ใสเชียว                                                               


 ไม่ได้มากมายนัก แต่ก็พอทำให้ตื่นเต้นได้เหมือนกัน กับดอกฝิ่นและผลของมัน พึ่งจะเคยเห็นต้นเป็นๆ
                                                                               
  เสื้อผ้ากระเป๋าของฝาก มีแต่แบบเก๋ๆทั้งนั้น ยิ่งเป็นลวดลายด้วยแล้ว มีความเป็นเอกลักษณ์ สวยดี
  สินค้าจำพวกชาและเครื่องดื่ม ไม่ได้มีแค่นี้ สินค้าจำพวกเครื่องประดับต่างๆก็มีคละเคล้ากันไป   รวมไปถึงพืชผักที่ชาวบ้านปลูกเอง                                                              

25 ม.ค. 2554

ดอยอินทนนท์ Chiangmai,Thailand

       ถ้าอยากสัมผัสอากาศหนาวเย็น ตลอดปีต้องที่นี่เลย ดอยอินทนนท์ วันนี้เราเดินทางออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมุ่งตรงไปทางหางดง แล้วตรงต่อไปเรื่อยจนถึงสันป่าตอง ยังไม่หยุดตรงต่อไปอีกไม่มีเลี้ยวมุ่งหน้าไปทางจอมทอง แต่ก่อนจะถึงจอมทองนิดหน่อย เจอสามแยกจะมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปดอยอินทนนท์
 พระมหาธาตุนภเมทนีดล สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2530
           พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2535



             ดอกไม้ที่สวยงาม ของเมืองหนาวมีให้ได้ยลกันทุกที่ ไม่ผิดหวังในความสูง ไม่ผิดหวังในความหนาว และไม่ผิดหวังในความสวย อย่างแน่นอน                                                                   

                                                                             

     พระมหาธาตุทั้งสององค์นี้มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือมีฐานเป็นรูป12เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็นสองระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปบูชา โดยสามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามรอบๆของดอยอินทนนท์ได้
                                                                           
     ดอยอินทนนท์ได้ชื่อว่า เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย    สำหรับการเดินทาง ผู้ที่ต้องการนำรถส่วนตัวขึ้นมา ด้วยลักษณะภูมิศาสตร์ขอแนะนำว่ารถต้องอยู่ในสภาพที่ดีพอ หรือถ้าไม่มั่นใจก็ใช้วิธีเช่ารถเอา                                                     
                                                                            
          ช่วงที่เดินทางไปดอยอินทนนท์ ยังอยู่ในช่วงหน้าหนาว โดยยอดดอยอุณหภูมิยังอยู่ที่10องศา และก็อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนที่เดินทางขึ้นไปถึงเวลาประมาณบ่าย 3 โมงกว่าๆ  เวลายิ่งเริ่มจะเย็นอากาศก็ยิ่งเริ่มจะหนาว และช่วงเช้าตรู่อากาศก็หนาวเย็นพอสมควร                                                                     
   ดอกไม้ที่เห็นจะมีอยู่ทั่วไป ตามสองข้างทางเป็นระยะเมื่อเดินทางสูงขึ้นไปเรื่อยๆ                                                         
     ตลาดข้างทางก่อนถึงยอดดอย มีผักและผลไม้สดๆขายมากมาย ผ่านเป็นต้องแวะ

                         เห็ดหลายชนิดผลิตผลจากชาวบ้าน
                                                   สดๆจากสวน

                 อากาศหนาวเย็น ได้มันเผาร้อนๆอร่อยๆ ขอบอกหวานอร่อยจริงๆ                                                                            
                                                                                      
                                                               

24 ม.ค. 2554

พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์

      จากพระธาตุดอยสุเทพ ขันรถตรงขึ้นไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตรก็จะถึง พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เป็นพระตำหนักแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
                      ด้านหน้าก่อนทางเข้า พระตำหนักภูพิงค                                               
  ต้องแต่งกายให้สุภาพ ถ้าไม่ก็จะมีบริการเช่าชุดเสื้อ กางเกง ใส่แล้วสวมทับไปเลยเพื่อความเรียบร้อย                                                      

  

      พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีลักษณะเป็นแผนผังแบบเรือนไทยภาคกลางที่เรียกว่า เรือนหมู่ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมเป็นไทยประเพณีประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูงหลังคาทรงไทย ภายในประกอบไปด้วยท้องพระโรง ห้องเสวย ห้องบรรทม และห้องสรง สำหรับพระราชอาคันตุกะ ตั้งอยู่คนละด้าน มีเฉลียงใหญ่ และพลับพลาหอนกเป็นที่ประทับทอดพระเนตรทัศนียภาพของเมืองเชียงใหม่ ชั้นบนเป็นที่ประทับ ชั้นล่างเป็นที่อยู่มหาดเล็ก และคุณข้าหลวง
                                                                
                               ดอกไม้ล้วนสวยงาม นานาพันธุ์
                      ทั้งดอกไม้ทั้งบรรยากาศ  เหมือนดั่งวิมานจริงๆ

  อดใจไม่ได้ที่จะหยุดชื่นชม หากใครได้มาเที่ยวพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ในฤดูหนาวจะตื่นตาตื่นใจไปกับดอกไม้หลากชนิดหลากสายพันธุ์

                              ดอกไม้บานสะพรั่ง  ชูช่อ                                                      

                               ความสวยงามบริเวณโดยรอบ ใต้ร่มเงา ของธรรมชาติ

      เดินลัดเลาะจนเหนื่อยแล้วก็มาถึงทางขึ้นอ่างเก็บนำ้ ก็คงต้องเดินขึ้นบันไดหลายขั้นอยู่
          ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่หลายร้อยไร่ และมากมายด้วยดอกไม้ดั่งสวรรค์ ถ้าต้องการที่จะเดินชื่นชมเก็บภาพไปเรื่อยๆก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แต่ถ้ามีผู้สูงอายุเดินทางมาด้วยจะเลือกนั่งรถแล้วมีคนบรรยายก็สะดวกดีไปอีกแบบ                                                                     
 ความงามของดอกไม้แต่ละชนิด ถ้าได้มาเห็นของจริงงามเกินกว่าจะบรรยายได้ เลยอดที่จะเก็บภาพมาฝากไม่ได้ซะตั้งหลายภาพ
โดยรอบจะมีดอกไม้หลากชนิด อยู่ทั่วไป สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบดอกไม้ รักภูเขา และความหนาวคงไม่ผิดหวัง

                                                                                     
       ประกอบกับความหนาว อากาศเย็น ยืนมองท้องฟ้าเมฆลอยผ่านเหมือนอยู่แค่เอื้อม
           สวรรค์บนพื้นพิภพยามเช้าในฤดูหนาว ที่เป็นเสมือนทิพย์พิมานในเทพนิยาย
      มีหลายอย่างให้เลือกทาน ด้วยบริเวณที่กว้างขวาง แล้วได้เลือกวิธีเดิน ได้เหงื่อพอควร เหนื่อยมิใช่น้อย
                    เดินเหนื่อยแล้ว ก็หยุดพักดื่มนำ้แก้กระหาย แล้วค่อยไปต่อ