27 ธ.ค. 2554

รู้หรือไม่? บู๊ท “SNSD” ขาไม่เรียวจริงเป๊ะจริง หมดสิทธิ์ใส่ ! [ 27-12-2011 ]


SNSD ใน ฐานะเกิร์ลกรุ๊ประดับท็อปของวงการเพลงเกาหลี ไม่ว่าเธอจะหยิบจับอะไรก็ดูจะเป็นเงินเป็นทองไปหมด ไม่เว้นแม่กระทั่งคอสตูมที่เธอสวมใส่อย่างเช่นรองเท้าบู๊ทของพวกเธอที่ใช้ โชว์ขาที่สวยเรียวผ่านทางการโปรโมตเพลงล่าสุดอย่าง Mr. Taxi และ The Boys  ในเกาหลี วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกถึงรองเท้าบู๊ทสุดสวยของพวกเธอกัน
โดยบู๊ทที่พวกเธอใส่นั้น เป็นบู๊ทที่ถูกสั่งตัดขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งจะคับกว่ารองเท้าบู๊ททั่วไปเป็นอย่างมาก ทางด้าน Perche เจ้าของแบรนด์ที่ออกแบบรองเท้าบู๊ทให้พวกเธอได้ออกมากล่าวว่า พวกเรานั้นได้รับออร์เดอร์และสั่งทำบู๊ทพิเศษให้กับพวกเธอ ซึ่งบู๊ทเหล่านี้คนทั่วไปแทบจะใส่ไม่ได้เลย
ชาวเน็ตกล่าวว่า ขาของพวกเธอเล็กเท่ากับแขนคนแค่นั้นเอง” , “พวกเธอมียีนส์พิเศษ” “มันทำให้ฉันอยากเข้าคอร์สไดเอ็ทบ้าง และ บางทีฉันก็รู้สึกแย่นะเพราะพวกเธอผอมเกินไป
ข้อมูลจาก

SM Entertainment เผยภาพถ่ายโปรไฟล์ของลูฮาน (Lu Han) สมาชิกคนที่ 2 ของบอยแบนด์ 'EXO' ออกมาเพิ่มเติม [ 27-12-2011 ]

เมื่อ ช่วงเช้าของวันนี้ SM Entertainment ได้ทำการเปิดตัวทีเซอร์ตัวที่สองของวงอบยแบนด์ 'EXO' พร้อมกับเผยโฉมสมาชิกคนที่สองของวงอย่างลูฮาน (Lu Han) หลังจากนั้นในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก็ได้มีการเปิดเผยภาพโปรไฟล์ออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกันเป็นครั้งแรกอีกด้วย
ใน ภาพชุดใหม่ที่ถูกเปิดเผยออกมานั้น หนุ่มหล่อวัย 21 ปี ที่มีชื่อว่า Lu Han ได้ปรากฏตัวในลุคที่ดูน่ารักพร้อมทรงผมยุ่งๆ ซึ่งแตกต่างจากภาพโปรไฟล์ของ Kai ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านี้ จากทีเซอร์วีดีโอที่ได้ชมกันไปนั้น Lu Han มีความสูงที่ดูพอๆ กับ Kai (เขาสูง 182 เซ็นติเมตร) และทั้งคู่ก็มีทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน
ข้อมูลของ พวกเขายังคงค่อยๆ ถูกเฉลยออกมาทีละนิด โดยพวกเขาจะเปิดตัวเดบิวท์ในฐานะวงบอยแบนด์ 2 กลุ่มที่มีชื่อว่า EXO-K และ EXO-M ซึ่งจะเดบิวท์พร้อมกันทั้งที่ประเทศเกาหลีและจีน สำหรับคำว่า 'EXO' นั้นเป็นตัวย่อมาจากคำว่า 'EXOPLANET' ซึ่งหมายถึงดาวเคราะห์ที่คนบนโลกไม่มีใครรู้จัก
ข้อมูลจาก

บีสท์ (BEAST) เตรียมเปิดฉากเวิลด์ทัวร์ 'BEAUTIFUL SHOW’ 35 รอบใน 14 ประเทศ

26 ธันวาคม 2554 
BEAST เตรียมเปิดฉากเวิลด์ทัวร์ ‘2012 BEAST 1ST WORLD TOUR-BEAUTIFUL SHOW’ โดยเริ่มต้นที่ยิมนาสติกสเตเดียม สวนโอลิมปิค กรุงโซล ในวันที่ 4~5 กุมภาพันธ์ รวม 2 วัน
BEAST จะเดินทางไปเปิดคอนเสิร์ตในประเทศต่างๆ อาทิ เยอรมัน อังกฤษ สเปน อเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น ไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ รวมกว่า 14 ประเทศใน 21 เมือง ทั้งหมดกว่า 35 รอบ กับแฟนๆกว่า 2 แสนคน โดยในคอนเสิร์ตครั้งนี้จะใช้เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 2 หมื่นล้านวอน ท่ามกลางอุปกรณ์ด้าน LED ที่โดดเด่นและเอฟเฟ็กซ์พิเศษ 3D ที่จะมาช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้กับคอนเสิร์ตได้มากยิ่งขึ้น
ทางด้านยงจุนฮยอง แห่ง BEAST เปิดเผยว่า "แม้เราจะรู้สึกกังวลอยู่บ้าง แต่พวกเราตั้งเป้าไว้ว่าคอนเสิร์ตนี้จะต้องสร้างความพึงพอใจให้กับทุกคน และพวกเราจะทำคอนเสิร์ตครั้งนี้ให้ดีที่สุดด้วยความรู้สึกรับผิดชอบต่อการ เป็นผู้เผยแพร่เพลงเคป๊อปให้ทุกคนได้รู้จัก"
ซนดงอุน กล่าวว่า "ตอนที่พวกเราได้อันดับที่ 1 ตอนที่พวกเราเปิดคอนเสิร์ตครั้งแรก หลายคนบอกว่า 'อะไรน่ะพวกนาย' แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่แล้วครับ" เสริม "อย่างคราวนี้ พอพวกเราบอกว่าจะทำเวิลด์ทัวร์พวกเรากลับถูกแหย่ด้วยครับ แต่ว่าเราจะตั้งใจให้เต็มที่ เพื่อหลังจากนี้เราจะได้สามารถคุยเกี่ยวกับคอนเสิร์ตได้อย่างภาคภูมิครับ" เขาเผยเป้าหมาย
ด้าน จางฮยอนซึง เสริม "ผมคิดว่าคอนเสิร์ตในครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้พวกเราเติบโตสู่ความเป็นศิลปิน อย่างแท้จริงครับ มันต้องเป็นทริปที่น่าตื่นเต้นมากแน่ๆ พวกเราหวังว่าทุกคนจะเห็นบีสท์ที่เติบโตขึ้นหลังเสร็จจากทัวร์คอนเสิร์ตใน ครั้งนี้ครับ" เขากล่าว


ที่มา : PINGBOOK ENTERTAINMENT

ชเวชีวอน (Choi Si Won) เป็นศิลปินเกาหลีที่มีผู้ติดตามในทวิตเตอร์สูงสุด 1.14 ล้านคน

26 ธันวาคม 2554 
ชเวชีวอน (Choi Si Won) แห่ง ซุปเปอร์จูเนียร์ (Super Junior) เป็นผู้ใช้งานทวิตเตอร์เกาหลีที่มีผู้ฟอลโล่ว์มากที่สุด
26 ธันวาคม ขณะนี้ ชเวชีวอน มีผู้ฟอลโล่ว์เขาในทวิตเตอร์รวมทั้งหมด 1,144,145 คน เขามียอดผู้ติดตามขึ้นนำเจ้าของสถิติเดิมอย่างนักเขียน อีเวซู (Lee Oisoo) ที่ขณะนี้มียอดผู้ติดตามรวม 1,117,076 คน
ชเวชีวอน มียอดผู้ติดตามในทวิตเตอร์เกินกว่า 1 ล้านคน ด้วยเหตุนี้ทำให้เขากลายเป็นสุดยอดศิลปินเกาหลีที่มียอดผู้ติดตามมากที่สุด เผยให้เห็นถึงความนิยมในระดับของเวิลด์สตาร์ได้เป็นอย่างดี
ชเวชีวอน ได้ทำกิจกรรมในวงซุปเปอร์จูเนียร์ไม่เพียงในเกาหลีเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฯลฯ นับเป็นความนิยมที่ได้รับไปทั่วทั้งเอเชีย นอกจากนี้ชีวอนยังมีผลงานละครที่ได้ฝากความประทับใจด้านการแสดงอย่างต่อ เนื่องด้วยเช่นกัน
อนึ่ง ล่าสุดเมื่อ 26 ธันวาคม ชเวชีวอน อัพเดททวิตเตอร์กล่าว "ขอบคุณพี่สาวอึนนา ของขวัญวันคริสต์มาสของผมคืออันนี้" เขากล่าวพร้อมโพสภาพถ่ายของขวัญวันคริสต์มาสที่ได้รับมา

ที่มา : PINGBOOK ENTERTAINMENT

26 ธ.ค. 2554

Cube Entertainment เผย 'เตรียมเดบิวท์ 7 หนุ่มบอยแบนด์น้องใหม่ในช่วงต้นปี 2012' [ 26-12-2011 ]

Cube Entertainment ต้นสังกัดของศิลปิน อาทิ BEAST, 4minute และ G.NA เตรียมเปิดตัวบอยแบนด์น้องใหม่ในช่วงต้นปี 2012
ใน วันที่ 26 ธันวาคม Cube Entertainment ได้จัดงานแถลงข่าวถึงแผนการทำงานของบริษัทในช่วงปี 2012 ที่กำลังมาถึง ฮงซึงซอง (Hong Seung Sung) ซีอีโอของ Cube Entertainment ได้กล่าวว่า 'พวกเรามีแผนที่จะเดบิวท์วงบอยแบนด์ที่มีสมาชิกจำนวน 7 คน ในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือไม่ก็ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ครับ'  
Cube Entertainment อธิบายเพิ่มเดิมว่า 'บอยแบนด์วงใหม่นั้นจะมีทักษะทั้งการร้อง การแร๊พ และการเต้น พวกเขาเป็นวงที่ได้รับการเตรียมตัวมาเป็นเวลายาวนานครับ'
Cube Entertainment กล่าวทิ้งท้ายว่า 'นอกจากจะมีสมาชิกทั้งหมด 7 คนแล้วนั้น พวกเขายังเป็นวงที่มีสมาชิกจากหลากหลายประเทศ ซึ่งพวกเขาจะทำการเดบิวท์ในตลาดเพลงเอเชียด้วยครับ'
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com

Jay Park appears on music video for Far East Movement’s new song


Singer Jay Park showed off his friendship with Far East Movement, worldwide hip-hip group who has ranked first on Billboard.

Park appeared on a music video for Far East Movement’s new song “Jello” and showed off his dance skills. The music video will be released in January of next year.

Park and the group have known each other since they were in the United States. They also attended the ‘ISA Festival,’ which was held overseas. The group asked Park to appear on their music video and Park accepted their request.

Far East Movement released several stills from the video on December 25 on their official homepage. In the stills, Park is dancing with the group members in a red training jacket and jeans.

They will spend the last day of this year together. Park and the group will attend the concert, ‘Highlight Festival 2012 Countdown,’ which will be held on December 31 at 10:00 p.m. at Sheraton Walkerhill Hotel.

Far East Movement debuted in 2006 with their first album Folk Music. Their song “Like a G6,” which was released in October of last year, ranked first on Billboard Hot 100 Single chart. In the music video for the song, Korean signs and restaurants appeared and drew a lot of attention from Korean fans.
ที่มา http://en.korea.com

FT Island heated up its Christmas concert in Japan with 30,000 fans.


From December 23 to 24, FT Island held a concert titled “X’mas Live 2011 Winter’s Night” at Yokohama Arena in Japan.
The tickets for this concert were sold out in a minute, immediately after the sales began. As the concert hall was filled with fans, FT Island appeared in a white costume, the color that shows Christmas’ warmth. The concert began with an atmospheric ballad song “So Today,” then followed by the group’s hits such as “Let It Go,” “Haruka,” and “I Hope” heating up the atmosphere.
Then each member of the group gave a solo performance. Lee Hong Ki, Lee Jae Jin, and Choi Jong Hun each showed a guitar performance while Choi Min Hwan and Son Seung Hyun showed off their drum and piano skills. Also, the group earned an explosive response from the fans by giving a performance of its rock ballad album Distance which was released this winter.
After the concert, FT Island said, “We have a total of 130 songs in Korean and Japanese. Someday, we wish to sing all of them at a concert. Thank you all for coming to this concert. We look forward to your continuous support and we promise to work our best and give you back the best concerts.”
ที่มา http://en.korea.com

JYJ มอบรถยนต์ซีดานสุดหรูราคา 300,000 เหรียญสหรัฐ!! ให้เป็นของขวัญกับซีอีโอของพวกเขา [ 26-12-2011 ]

JYJ ได้ทำการแสดงความขอบคุณกับแพคชางจู (Baek Chang Joo) ซีอีโอของบริษัท C-JeS Entertainment ด้วยของขวัญชิ้นใหญ่!! 
ใน วันที่ 26 ธันวาคม คนในวงการบันเทิงได้เปิดเผยข้อมูลว่า 'JYJ ได้มอบของขวัญให้กับซีอีโอของพวกเขา เป็นรถยนต์ซีดานสุดหรูหราจากต่างประเทศ ที่มีมูลค่ามากกว่า 300,000 เหรียญสหรัฐครับ'
ตัวแทนของวง JYJ เปิดเผยว่า 'เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พวกเราได้มีการจัดงานปาร์ตี้ส่งท้ายปีกันครับ หลังจากที่เสร็จสิ้นการทานอาหาร พวกเราได้เดินออกไปที่ด้านนอกและพบกับรถยนต์ซีดานสุดหรู ซึ่งสมาชิกของวง JYJ ต้องการแสดงความขอบคุณสำหรับแรงสนับสนุนให้พวกเขานั้นมารวมตัวกัน และพวกเขาจึงรวมเงินกันเพื่อซื้อรถยนต์คันใหม่นี้ขึ้นมาครับ'
JYJ ตัดสินใจที่จะซื้อรถก็เพราะว่า ซีอีโอของพวกเขานั้นยังไม่มีรถยนต์ส่วนตัวเป็นของตัวเอง ดูเหมือนว่าซีอีโอ จะทำงานอย่างหนักเพื่อพวกเขา และไม่มีเรื่องที่ทำให้หัวใจของพวกเขานั้นเจ็บปวดแต่อย่างใด  
ตัวแทน กล่าวเสริมว่า 'JYJ และซีอีโอแพค รู้จักกันมาเป็นเวลา 2 ปีแล้วครับ และพวกเขาก็เป็นเหมือนกับพี่น้องกันนับตั้งแต่นั้น ผมเชื่อว่าของขวัญนี้มาจากการประสบความสำเร็จจากงานคอนเสิร์ตเวิร์ลทัวร์ของ พวกเขาครับ และยังเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ด้วยครับ นอกเหนือไปจากของขวัญที่มีราคาแพงแล้วนั้น ความจริงใจของพวกเขาก็รวมอยู่ในของขวัญอันล้ำค่าชิ้นนี้ด้วยครับ' 
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com

จัดเต็ม!! SM Entertainment ใช้รถบรรทุกติดจอภาพขนาดใหญ่ยักษ์โปรโมตวงบอยแบนด์ใหม่ล่าสุด 'EXO' ทั่วกรุงโซล [ 26-12-2011 ]

SM Entertainment ได้ทำการโปรโมตวงบอยแบนด์น้องใหม่ 'EXO'! ในตลอดช่วงวันหยุดคริสต์มาสที่ผ่านมา พร้อมกับโฆษณาโปรโมตวง 'EXO-K' และ 'EXO-M' ไปตามสถานที่ต่างๆ ทั่วกรุงโซล ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ที่ได้พบเห็นกันเป็นอย่างมาก
ในช่วง สามวันที่ผ่านมา รถบรรทุกขนาดใหญ่ได้ออกเดินทางไปตามท้องถนนในย่านคังนัม, มยองดง, ชินชอน และฮงแด พร้อมกับจอภาพวีดีโอขนาดใหญ่ยักษ์ที่ติดอยู่ข้างตัวรถ ซึ่งในเวลานั้นจะมีผู้คนออกมาช้อปปิ้งและใช้เวลาที่มีความสุขในวันหยุด คริสต์มาส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะดึงดูดความสนใจจากผู้คนจำนวนมากตามสถานที่ สาธารณะ
โดยมีผู้คนจำนวนมากต่างหยุดดูทีเซอร์โปรโมตสมาชิกคนแรก ของวง 'EXO' ที่มีชื่อว่า KAI ซึ่งติดให้เห็นกันที่ข้างบริเวณตัวรถบรรทุก แฟนๆ ต่างให้ความสนใจกับพวกเขาเป็นอย่างมากก่อนที่จะเริ่มต้นเดบิวท์อย่างเป็น ทางการ
สำหรับทีเซอร์ตัวใหม่ของวง 'EXO' คาดว่าจะเปิดตัวออกมาให้ชมกันในวันที่ 27 ธันวาคมนี้!!
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com

คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) บริจาคเงินให้กับการกุศลจำนวน 150,000 เหรียญสหรัฐ!! [ 26-12-2011 ]

เมื่อเร็วๆ นี้ นักร้องหนุ่มสุดฮอตคิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) ได้แอบบริจาคเงินจำนวน 150,000 เหรียญสหรัฐให้กับองค์กรการกุศล
ใน วันที่ 26 ธันวาคม สภากาชาดแห่งเกาหลีได้เปิดเผยข้อมูลว่า คิมฮยอนจุงได้บริจาคเงินจำนวน 50,000 เหรียญสหรัฐ ก่อนหน้าที่เขาจะจัดการแสดงทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายน ต่อจากนั้นเขาได้บริจาคเงินเพิ่มเติมอีก 50,000 เหรียญสหรัฐ สำหรับสมาคมผู้ไร้บ้าน และอีก 50,000 เหรียญสหรัฐสำหรับเด็กที่เมืองฟูกุชิมะหลังจากที่เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมแล้วคิมฮยอนจุงได้แอบบริจาคเงินสำหรับการกุศลแบบลับๆ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นมากถึง 150,000 เหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
Key East Entertainment กล่าวว่า 'มันเป็นเรื่องที่เขาได้ทำเองโดยส่วนตัว ดังนั้นพวกเราจึงไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ พวกเรารู้สึกว่าเขาต้องการที่จะแบ่งปันสิ่งนี้แบบเงียบๆ ครับ'
อนึ่ง คิมฮยอนจุงเตรียมจัดงานแฟนมีทติ้งร่วมกับแฟนๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมกราคมปี 2012
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com

จองอิลอู (Jung Il Woo) คอนเฟิร์ม ร่วมแสดงในละคร MBC 'Moon That Embraces The Sun' [ 26-12-2011 ]

นักแสดงหนุ่ม จองอิลอู (Jung Il Woo) เตรียมร่วมแสดงในละคร 'Moon That Embraces The Sun' ละครเรื่องใหม่ทางช่อง MBC
จอ งอิลอู ที่มีแววจะได้ร่วมแสดงในละคร 'Moon That Embraces The Sun' หลังจากพิจารณาแล้ว ล่าสุดเขาก็ได้ตัดสินใจคอนเฟิร์มร่วมแสดงในละครเรื่องดังกล่าวอย่างแน่นอน โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการเตรียมตัวเข้าร่วมถ่ายทำ 'Moon That Embraces The Sun' เป็นละครประวัติศาสตร์โรแมนซ์ที่เล่าถึงเรื่องราวความรักของกษัตริย์หนุ่ม กับพระมเหสีที่สูญเสียความทรงจำและกลายเป็นหญิงทรงเจ้า โดยจองอิลอูจะรับบทเป็น ยังมยอง กษัตริย์ลำดับที่ 1 ตามลำดับการสืบราชบัลลังก์
จองอิลอูที่มีผลงานล่าสุดในละคร 'Flower Boy Ramen Shop' ทางช่อง tvN ได้เปิดเผยความรู้สึกว่า ''เนื่องจากผมมีเวลาจำกัดในการเตรียมตัวสำหรับผลงานเรื่องใหม่ ทำให้รู้สึกหนักใจครับ แต่ผมชอบผลงานและตัวละครมาก ผมจึงจะตั้งใจแสดงอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการตอบแทนความรักของผู้ชมที่มอบให้ กับผมครับ''
อนึ่ง 'Moon That Embraces The Sun' ที่นอกจากจองอิลอูแล้ว ยังมี คิมซูฮยอน (Kim Soo Hyun), ฮันกาอิน (Han Ga In) ฯลฯ ร่วมแสดง จะออกอากาศตอนแรกในวันที่ 4 มกราคม ปีหน้า ต่อจาก 'Me Too, Flower'
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com

“แจจุง” (JYJ) เผย อยากกลับมาเล่นละครอีก [ 26-12-2011 ]

แจจุง สมาชิกวง JYJ เผยถึงความปรารถนาที่จะกลับมารับงานแสดงอีก

การแสดงของแจจุงในบทชามูวอน จากซีรีย์เรื่อง Protect the Boss ทางสถานี SBS นั้น ถือว่าได้รับคำชมเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นซีรีย์เรื่องแรกที่เขารับเล่นและประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา แจจุงนั้นไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ Choi Kang-hee's Night Flight ทาง KBS radio's Cool FM โดยชเวคังฮีได้ถามเขาว่า คุณยังอยากแสดงละครต่อไปมั้ยคะ?” และเขาตอบว่า การแสดงเป็นอะไรที่น่าดึงดูดมากๆครับ

และหลังจากนั้นชเวคังฮีได้ถามเขาอีกว่า แล้วในอนาคตคุณจะยังมีผลงานละครในเกาหลีต่อไปมั้ยคะ?” เขาตอบแสดงถึงความต้องการของตัวเองว่า ถ้าเกิดว่ามีโอกาสอีก ผมก็อยากจะลองดูครับ

แล้วคุณล่ะ อยากเห็นแจจุงเล่นละครอีกมั้ย ?

ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com

25 ธ.ค. 2554

Movie World

           ระหว่างการเดินทางไป Brisbane มีสวนสนุกอยู่3แห่ง คือ Movie World, Dream World, Sea World แต่ลูกสาวเลือกที่จะแวะ Movie World ก่อนแต่ปรากฎว่าก็ได้แวะที่เดียวนั่นแหละเพราะหมดวันพอดี ที่อื่นคงต้องคราวหน้าก็แล้วกัน
           Movie World หรือก็คือ "โรงถ่ายภาพยนตร์วอร์เนอร์ บราเธอร์ส" (Warner Boros. Movie World) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ฮอลลีวู้ดแห่งโกลด์โคสท์ ตั้งอยู่บนถนนแปซิฟิกไฮเวย์ อ๊อกเซนฟอร์ด วิธีไปก็นั่งรถไฟสาย Gold Coast จากสถานี Central platform 1 ไปลงที่สถานี Helensvale ใช้เวลาประมาณ ชม. กว่า ๆ แล้วไปต่อรถบัสสาย A1(ออกจากสถานีเลี้ยวซ้าย) จะมีรถบัสจากสถานีไปที่ Movie World เรื่อย ๆ ค่าเข้า 60 $
          ที่มูฟวีเวิลด์แห่งนี้ มีทั้งโรงถ่ายภาพยนตร์ ฉากถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ เช่น หนังเรื่องดังยอดฮิตตลอดกาลอย่างเรื่องซุปเปอร์แมนและแบทแมน มีการจำลองสถานที่ถ่ายทำพร้อมตัวแสดงของฮอลลีวู้ดเช่น ถนนเมนสตรีท ตัวเกรมลินผจญภัย บ้านไอน์สไตล์ ร้านวอเนอร์บราเธอร์ ตลาดคาซาบลังกา ธนาคารบอนนี่แอนด์ไคล์ ร้านของเล่นกระต่ายบั๊กบันนี่ ร้านอเมริกันริคส์ ร้านกาแฟก๊อทแธมซิตี้ในภาพยนตร์เรื่องแบทแมน
          ความโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งของมูฟวี เวิลด์ก็คือ เมื่อเข้าไปแล้วจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับดารานักแสดงจากภาพยนตร์และดารา การ์ตูนในขบวนพาเรด เช่น สกูปี้ดู บั๊กบันนี่ แบทแมน สาวน้อยมหัศจรรย์ พร้อมตัวการ์ตูนต่างๆอีกมากมายที่ครองใจผู้คนทุกเพศทุกวัยทั่วโลกทั่งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่
          นอกจาก นี้ที่มูฟวีเวิลด์ยังมีการแสดงโชว์อันน่าระทึกอีกมากมายเช่น การแสดง Sound Effect ที่ผู้ชมสามารถเข้าไปลองเล่นซาวด์เอฟเฟ็กต์ต่างๆกับเขาได้ด้วย อาทิ เสียงยิงปืน เสียงเคาะประตู เสียงเปิดหม้อข้าว เป็นต้น การแสดงสาธิตการถ่ายทำ เช่นว่าทำอย่างไรซุปเปอร์แมนถึงบินได้ สไปเดอร์แมนปีนตึก 30 ชั้นไปช่วยคนเดือดร้อนได้อย่างไร หรือการแสดงสตั๊นแมนท์โชว์จากภาพยนตร์เรื่องโปลิศจิตไม่ว่าง ล้วนแล้วแต่สนุกตื่นเต้นและน่าทึ่งเหมือนตัวเองได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน ฮอลลีวู้ดเลยจริงๆ
         แนะนำเลยถ้าผ่านหรือไม่ผ่านก็แล้วแต่ต้องแวะไปแล้วคุ้ม ยิ่งมีลูกไปด้วยเด็กได้ประสบการณ์ใหม่ที่ตื่นเต้น และน่าประทับใจเชียวหละ

เมลเบิร์น ออสเตรเลีย

           เมืองเมลเบิร์น เป็นเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับเมืองซิดนีย์ คือมีพื้นที่เพียง 6,100 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น แต่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น และมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมา เรียกว่าเป็นอันดับสองรองลงมาจากซิดนีย์เลยก็ว่าได้ เป็นเมืองที่มีเสน่ห์มัดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเมืองนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็น “ Garden City “  มอง ไปทางไหนก็เห็นสีเขียว ๆ ของต้นไม้เต็มไปหมด และมีสวนสาธารณะอยู่หลายแห่ง ในตอนเช้าเราจะเห็นผู้คนออกมาวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายอยู่ตามสวนสาธารณะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เมืองนี้มีอากาศดี สดชื่นแจ่มใส ไร้มลพิษ อีกทั้งเมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำยาร์ร่า จึงทำให้มีทิวทัศน์สวยงาม มองแล้วสบายตา
         ในอดีตเมืองเมลเบิร์น เคยมีฐานะเป็นเมืองหลวงเก่าของออสเตรเลียมาก่อน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1901 – 1927  แต่ หากจะย้อนประวัติศาสตร์ไปก่อนหน้านั้น ก็เริ่มตั้งแต่สมัยก่อนที่ชาวยุโรปที่อพยพมาตั้งรกรากอยู่ในออสเตรเลีย ส่วนใหญ่จะมาอาศัยอยู่ในเมืองซิดนีย์ ต่อมามีชาย 2 คน คือ นาย John Batman  และ นาย John Folkner   เห็น ว่าเมืองซิดนีย์เริ่มหนาแน่นแออัดมากขึ้น ก็เลยชักชวนกันเดินทางลงมาทางใต้ เพื่อมาหาถิ่นที่อยู่ใหม่ เดินทางลงมาเรื่อย ๆ ก็มาพบแม่น้ำยาร์ร่า จึงถูกอกถูกใจกับพื้นที่บริเวณนี้ เนื่องจากมีแม่น้ำไหลผ่าน ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้จับจองบริเวณโดยรอบเป็นการใหญ่ แล้วตั้งชื่อเมืองว่า Port Phillip ตามชื่อของอ่าว เพราะแม่น้ำยาร์ร่านั้นไหลลงสู่อ่าว Port Phillip แล้วจากนั้นก็มีผู้คนมาจับจองปักหลักตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่เพิ่มมากขึ้น จนขยายกลายเป็นเมืองใหญ่ ต่อมาก็ถึงยุคสมัยที่ Lord Melbourne มารับตำแหน่งเป็นอัครมหาเสนาบดีของอังกฤษ ท่านได้ให้การสนับสนุนช่วยเหลือคนในเมืองนี้หลาย ๆ ด้าน ดังนั้นจึงเปลี่ยนชื่อเมืองจาก Port Phillip มาเป็น เมืองเมลเบิร์น ในปี ค.ศ. 1842

Tae Min says, “I’m recording at a studio. How do I look?”


SHINee’s Tae Min released a picture of himself at a recording studio.
On December 24 Tae Min posted a picture on Me2day with the comment “Hey guys, it’s a White Christmas Eve! I hope you all make wonderful memories today. This picture was taken while I was recording as a voice of character Johnny for The Outback. How do I look?”
In the uploaded picture, Tae Min is recording at a studio holding a script.
Netizens comment: “I like seeing you working hard! I’ll definitely watch it~ Fighting!” “Don’t overwork on recording. Take a good care of yourself!” “You look very serious in the picture. Somewhat mature-looking. Cheer up!”
Previously on December 21, Tae Min appeared at Media Day event which was held for launching KT Digital music service, Genie, at Olleh Square in Gwanghwamun.

ที่มา http://en.korea.com

A dance party on WGM!


Husband Lee Jang Woo’s heart pounded when he saw Ham Eunjung’s sexy pole dance.
On the episode of MBC TV’s We Got Married Season 3 that aired on December 24, Eunjung wore a black outfit that showed off her sexy curves, and started dancing a pole dance.
Men were excited at her dance, and Lee Jang Woo kept saying, ‘Uhmuh,’ not knowing what to do. When the performance ended, Lee jumped out of the seat.
When Lee was asked how he felt about the dance, he said that I thought I got used to Eunjung, but my heart started to pound again after seeing this dance.
In this broadcast, Park So Hyun danced cutely and sexily with a song of Wonder Girls, and Kang So Ra danced shyly with SNSD’s “Oh.” Park So Hyun took first place and received the prize.
ที่มา http://en.korea.com

    ภาพสมาชิกในครอบครัวยูชอน (Yoochun)[24-12-2011]


    111223Yoochun
    ภาพ ของครอบครัวยูชอน (Yoochun) จาก JYJ โดยมียูชอน, น้องชายของเขาปาร์คยูฮวาน (Park Yoo Hwan) และแม่ของพวกเขาที่ถูกอัพโหลดทางออนไลน์
    ภาพ นี้มาจาก Come On Over, JYJ Private DVD ของ JYJ และภาพนี้ทำให้ได้เห็นในแต่ละส่วนของโครงหน้าของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งยูชอนและยูฮวานมีจมูกที่สูงโด่ง แล้วพวกเขาก็มีดวงตาที่โตอีกด้วย
    http://www.blike.net

    ดงเฮ (Dong Hae) และอึนฮยอค (Eun Hyuk) ทำอาหารในช่วงดึกให้กับแฟนๆ จากประเทศอื่น![24-12-2011]


    111223SJ01
    ดงเฮ (Dong Hae) และอึนฮยอค (Eun Hyuk) จากวง Super Junior ที่มีผลงานด้วยกันในเพลง Oppa Has Arrived ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการวิทยุของชินดง (Shin Dong) และพวกเขาได้ทำอาหารทานเล่นในช่วงดึกให้กับแฟนๆ ต่างประเทศของพวกเขา
    ใน วันที่ 21 ธันวาคมดงเฮและอึนฮยอคมาที่รายการวิทยุ ShimShim Tapa ของชินดงทางสถานีวิทยุ MBC พร้อมกับหัวหน้าวงลีทึก (Lee Teuk) โดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า และมาพร้อมๆ กับผู้จัดการของพวกเขาปาร์คจองซู (Park Jung Soo) โดยที่พวกเขาได้แสดงการแสดงไลฟ์ด้วยกัน และทำให้แฟนๆ ดีใจและสนุกสนานไปกับบทสนทนาของพวกเขา
    พวก เขาได้รับความรักและกำลังใจสนับสนุนจากแฟนๆ ทั่วโลกด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมพิเศษสำหรับแฟนๆ ต่างประเทศ พวกเขาเริ่มทำอาหารทานเล่นในช่วงดึกสำหรับแฟนๆ ในช่วงออกอากาศกลางดึก และตัดสินใจที่จะมอบให้กับแฟนๆ ของพวกเขา
    ทีม งานของรายการ ShimShim Tapa ต่างกังวลว่า แฟนๆ ต่างประเทศจะไม่สามารถมาร่วมในรายการที่สตูดิโอได้ และเมื่อโปรเจคใกล้สำเร็จแล้ว ข่าวได้เผยแพร่ไปทาง Social Network ทาง Twitter และมีแฟนๆ จำนวน 4 คนที่มาจากอังกฤษ, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น และฮ่องกงเดินทางมาที่สตูดิโอ
    ดง เฮ, อึนฮยอค และลีทึกทำข้าวปั้นของพวกเขาเองและตั้งชื่ออาหารของพวกเขาว่า First Love, Mr. Simple และ Super Junior หลังจากที่พวกเขาป้อนอาหารที่พวกเขาเตรียมตัวให้แฟนๆ ของพวกเขากันแล้ว แฟนๆ ที่ถูกเชิญเห็นพ้องต้องกันว่า ข้าวปั้น Mr. Simple ของอึนฮยอคนั้นดีที่สุด แล้วตั้งฉายาให้เขาว่า “เชฟอึน”
    ผู้ ฟังรายการต่างกล่าวว่า “ฉันน่าจะเป็นแฟนๆ จากต่างประเทศบ้าง” และ “การที่ให้แฟนๆ มาที่สตูดิโอในเวลาตี 2 ... นี่เป็นเหมือนรายการ Infinity Challenge ของรายการวิทยุจริงๆ”
     http://www.blike.net

    วอนบิน (Won Bin) เป็นศิลปินจากงานภาพยนตร์ที่ช่วยให้ปี 2011 มีสีสรรค์?[24-12-2011]


    111223WonBin02
    ถึง แม้ว่านักแสดงชายวอนบิน (Won Bin) จะไม่ได้มีผลงานภาพยนตร์และละครในปี 2011 แต่เขาก็ยังได้รับความสนใจในเรื่องศิลปินจากงานภาพยนตร์ที่ช่วยให้ปี 2011 มีสีสรรค์
    ทาง Korean Gallup ทำโพลสำรวจตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายนถึงวันที่ 6 ธันวาคมที่มีแฟนๆ จำนวน 1,728 คนที่อายุมากกว่า 13 ปีมาร่วมกันเลือกนักแสดงจากงานภาพยนตร์ที่ช่วยให้ปี 2011 มีสีสรรค์ อันดับ 1 คือวอนบินด้วยเสียงโหวด 11.3%
    และ ปาร์คแฮอิล (Park Hae Il) ได้เสียงโหวด 9.5% ข่าวรายงานว่าวอนบินได้รับความนิยมจากผู้เข้าร่วมโหวดอายุสิบกว่าและยี่สิบ กว่า ส่วนปาร์คแฮอิลได้รับความนิยมจากผู้โหวดอายุประมาณ 30 กว่า และ 40 กว่า
    ผู้ ที่ถูกเลือกคนอื่นๆ ยังมีจางกึนซอค (Jang Geun Suk) ด้วยเสียงโหวด 8.8%, คิมฮานึล (Kim Ha Neul) ด้วยเสียงโหวด 8.2%, กงยู (Gong Yoo) ด้วยเสียงโหวด 5.8%, ลีบยองฮุน (Lee Byung Hun) ด้วยเสียงโหวด 4.8%, ฮาจิวอน (Ha Ji Won) ด้วยเสียงโหวด 3.1%, อันซองคิ (Ahn Sung Ki) ด้วยเสียงโหวด 3% และฮันซอคคยู (Han Suk Kyu) ด้วยเสียงโหวด 3%
    ซึ่งวอนบินได้อันดับ 1 เช่นเดียวกับการสำรวจเดียวกันในปี 2010
    โดยที่ นักแสดงชายฮยอนบิน (Hyun Bin) ได้อันดับ 1 ในการสำรวจที่ว่า นักแสดงละครคนใด้ที่สร้างสีสรรค์ให้กับปี 2011 ดูเหมือนว่านักแสดงชายทั้ง 2 คนที่มีชื่อลงท้ายว่า “บิน” จะเป็นที่โปรดปรานทั้งแฟนละครและแฟนภาพยนตร์
    http://www.blike.net

    คิมแตฮี (Kim Tae Hee) ถ่ายภาพกับดงวูน (Dong Woon)! [24-12-2011]


    111223KimTaeHee
    ก่อน หน้านี้ซงซึงฮุน (Song Seung Hun) แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมของเขากับสมาชิกวง B2ST ด้วยภาพถ่ายจากคอนเสิร์ตคริสต์มาสของละครเรื่อง My Princess ที่ประเทศญี่ปุ่น ตอนนี้คิมแตฮี (Kim Tae Hee) ถ่ายภาพกับสมาชิกในวง B2ST ด้วยเช่นกัน
    โดยที่คิมแตฮีถ่ายภาพกับดงวูน (Dong Woon) ที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นที่ได้ยืนเคียงข้างนักแสดงคนสวย
    http://www.blike.net

    วง Big Bang จะเริ่มมีผลงานใหม่ที่เกาหลีในเดือนมีนาคม 2012[24-12-2011]


    111224YG
    ทาง YG Entertainment ประกาศว่า วง Big Bang จะเริ่มมีผลงานใหม่ที่เกาหลีในเดือนมีนาคม 2012
    ใน วันที่ 23 ธันวาคมตัวแทนเปิดเผยว่า อัลบั้มนี้จะมีหลายเพลงที่แต่งในระหว่างที่พวกเขาหยุดการโปรโมทไป ตัวแทนกล่าวว่า “วง Big Bang แต่งหลายเพลงระหว่างที่พวกเขาหยุดการโปรโมทในปีนี้ พวกเขาจะเลือกบางเพลงเพื่อรวมในอัลบั้มที่จะเปิดตัวในปีหน้านี้”
    เขา กล่าวเพิ่มว่า “ตอนนี้ชื่ออัลบั้มกำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกและการถ่ายทำ MV จะเริ่มกันในเดือนมกราคม สมาชิกทั้งหมดกำลังตั้งใจทำงานกันอย่างหนักในการผลิตอัลบั้ม”
    http://www.blike.net

    3 สามี คิมวอนจุน, อีจางอู, อีทึก เหงื่อตก เมื่อคนสนิทบุกแฉความลับกลางรายการ (WGM) [ 24-12-2011 ]

    คิมวอนจุน, อีจางอู, อีทึก 3 สามีจากรายการ 'We Got Married' จนมุมกับการแฉความลับของคนใกล้ชิดกลางรายการ
    เมื่อ วันที่ 24 ธันวาคม ในรายการ 'We Got Married' ตอนพิเศษส่งท้ายปี พัคโซฮยอน-คิมวอนจุน, อึนจอง-อีจางอู, คังโซรา-อีทึก 3 คู่รักได้มารวมตัวกันพร้อมกับร่วมเล่นเกมด้วยกันในรายการ
    โดยใน วันนี้ คนใกล้ชิดของ 3 คู่รัก ได้มาเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับความลับที่ซุกซ่อนเอาไว้ในช่วง 'Shadow Talk' ที่จะเห็นผู้ที่จะมากล่าวแฉเรื่องลับๆ เป็นแค่เงาดำๆ เท่านั้น ซึ่งหัวข้อแรก เป็นเรื่องของ 'ผู้หญิงเซ็กซี่'
    ทันทีที่ได้ยิน ชื่อหัวข้อ คนใกล้ชิดของอีนจองก็เปิดเผยว่าในทีนี้มีคนที่ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ ซึ่งก็คืออีจางอู โดยพวกเธอกล่าวต่อว่า ''เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้มาเจอพี่สาวของพวกเรา จริงๆ แล้วเขาคงชอบผู้หญิงที่สวมเสื้อคอลึกไม่ใช่ผู้หญิงเซ็กซี่หรอก'' ทำเอาอีจางอูถึงกับเหงื่อตก ซึ่งเขาก็แก้ตัวว่า ''ผมไม่ได้ชอบแต่ความเซ็กซี่ครับ ภรรยาผมมีความน่ารักแล้วก็ขี้อ้อนเยอะ ผมเลยคิดว่ามันมีเสน่ห์ของความเซ็กซี่อยู่ในภาพลักษณ์นั้นครับ''
    ส่วน คนรู้จักของอีทึกที่ปรากฎตัวขึ้นมาเพื่อแฉความลับของเขาก็กล่าวแฉว่า ''อีทึกชอบมองผู้หญิงที่หน้าตาสวยมากกว่าผู้หญิงเซ็กซี่ครับ ต้องเป็นผู้หญิงที่สวย แล้วก็ทำงานบ้านดี'' และคนรู้จักของคิมวอนจุนก็กล่าวแฉคิมวอนจุนว่า ''คิมวอนจุนชอบผู้หญิงสไตล์ที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่าผู้หญิงเซ็กซี่ครับ เมื่อก่อนตอนเขาขับรถไปไหนมาไหนเอง เวลาเห็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ดึงดูด เขาจะชอบเอาหน้าไปแนบติดหน้าต่างเลยครับ'' เรียกเสียงฮาสนั่น
    ข้อมูลจาก
    http://www.popcornfor2.com

    24 ธ.ค. 2554

    อึนจอง-อีจางอู, คังโซรา-อีทึก 2 คู่รักร่วมพิสูจน์ความจริงใจต่อกันด้วยเครื่องจับเท็จ (WGM) [ 24-12-2011 ]

    อึนจอง-อีจางอู, คังโซรา-อีทึก 2 คู่รักร่วมพิสูจน์ความจริงใจต่อกันด้วยเครื่องจับเท็จ
    เมื่อ วันที่ 24 ธันวาคม ในรายการ 'We Got Married' ตอนพิเศษส่งท้ายปี พัคโซฮยอน-คิมวอนจุน, อึนจอง-อีจางอู, คังโซรา-อีทึก 3 คู่รักได้มารวมตัวกันพร้อมกับร่วมเล่นเกมด้วยกันในรายการ
    โดยใน วันนี้ หลังจากเล่มเกมกินป๊อกกี้ไปแล้ว ก็ถึงเวลาพิสูจน์ความในใจของคู่รักด้วยการใช้เครื่องจับเท็จ เริ่มจากคู่อึนจอง-อีจางอู โดยพิธีกรพัคมีซอนได้ถามอีจางอูว่า ''มีคู่รักที่คุณรู้สึกอิจฉา'' ซึ่งอีจางอูก็ตอบว่า ''จริง'' และเครื่องจับเท็จก็เผยผลการพิสูจน์ออกมาว่าเป็นจริงเช่นกัน อีจางอูกล่าวอธิบายว่า ''ผมอิจฉาพี่โซฮยอนที่ทำอาหารเก่งครับ'' เมื่อถามคำถามต่อไปว่า ''แต่งงานมาแล้ว 8 เดือน ความรู้สึกของคุณในตอนนี้ลดลงกว่าตอนแรก'' อีจางอูตอบว่า ''ไม่จริง'' ซึ่งเครื่องจับเท็จก็ยืนยันว่าคำตอบของเขาเป็นจริง
    ด้านอึนจอง เมื่อถามคำถามเดียวกันว่า ''มีคู่รักที่คุณรู้สึกอิจฉา'' เธอก็ตอบว่า ''จริง'' ซึ่งเครื่องจับเท็จก็ยืนยันว่าเธอพูดความจริง โดยอึนจองกล่าวอธิบายว่า ''ฉันอิจฉาคู่ นิชคุณ-วิคตอเรีย ค่ะ เรื่องการสกินชิพคู่นั้นเขาค่อยๆ ก้าวไปทีละนิดๆ ดูน่ารักสดใสดีค่ะ แต่ของพวกเราฉันว่ามันเร็วเกินไปค่ะ'' และเมื่อถามว่า ''คิดถึงอีจางอูทุกวัน ทุกเวลา'' เธอก็ตอบว่า ''จริง'' ซึ่งผลจากเครื่องจับเท็จก็พิสูจน์คำตอบของเธอว่าเป็นความจริง
    ส่วน คู่คังโซรา-อีทึก เมื่ออีทึกถูกถามว่า ''คุณคิดว่าภรรยาของคุณสวยที่สุดท่ามกลางภรรยาของคู่อื่นในรายการ'' โดยเขาตอบว่า ''จริง'' และผลก็ออกมาว่าคำตอบของเขามาจากใจจริง แต่เมื่อถามว่า ''คังโซราคือผู้หญิงในสเป็คของคุณ'' อีทึกตอบว่า ''ไม่จริง'' ซึ่งเครื่องจับเท็จก็ยืนยันว่าเขาพูดจริง โดยอีทึกอธิบายว่า ''จริงๆ สเป็คผู้หญิงของผมคือผู้หญิงตัวเล็กๆ ครับ แต่ข้อดีของคุณคังโซราไม่ใช่หน้าตาหรือนิสัย แต่เป็นจิตใจที่งดงามของเธอครับ''
    เนื่องจากคำตอบที่หวานเลี่ยน ของอีทึก ทำให้ผู้ร่วมรายการต่างก็อิจฉา จึงแกล้งให้อีทึกใช้มือทั้งสองข้างวางบนเครื่องจับเท็จ แล้วถามคำถามว่า ''เกิดใหม่อีกครั้ง คุณก็จะแต่งงานกับคังโซรา'' ซึ่งแน่นอนว่าอีทึกต้องตอบว่า ''จริง'' แต่เครื่องจับเท็จข้างซ้ายยืนยันว่า''จริง'' แต่ด้านขวากลับยืนยันว่า ''ไม่จริง'' เรียกเสียงฮาสนั่นจากทั้งสตูดิโอ
    ข้อมูลจาก

    ซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย

                Sydney เป็นเมืองหลวงของรัฐ New South Wales มีประชากรมากว่า 4 ล้านคน เป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย และมีจำนวนนักศึกษาไทยไปศึกษามากที่สุดด้วย ซิดนี่ย์จัดได้ว่าเป็นเมืองที่คึกคักเต็มไปด้วยสีสันและมีชื่อเสียงมาก มีสัญลักษณ์ประจำเมืองที่มีชื่อเสียงคือ โอเปร่าเฮ้าส์ (Opera House) สะพานข้ามอ่าวซิดนี่ย์ (Sydney Harbour Bridge)
               เมือง ซิดนีย์แบ่งออกเป็นเหนือและใต้ มีสะพานซิดนีย์ฮาร์เบอร์และอุโมงค์ฮาเบอร์เชื่อมสองฝั่งเข้าด้วยกัน ย่านทางเหนือของสะพาน เรียกว่า นอร์ทชอร์ ศูนย์กลางของเมืองซิดนีย์อยู่ที่ท่าเรือ Circular Quay ไปจนถึง Central Station ทางฝั่งตะวันตกจะมี Darling Harbour ส่วนทางตะวันออกจะมี ดาร์ลิ้งเฮิร์ส คิงส์ครอส และแพดดิงตั้น และไกลออกไปประมาณ 3 กม. ทางตะวันออกเฉียงใต้ตามแนวชายฝั่ง จะมีชายหาดที่ชื่อบอนไดและคูจี
              Sydney เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของออสเตรเลีย เป็นขุมพลังทางเศรษฐกิจและเป็นเมืองหลวงของทุกด้าน แม้ว่าจริงๆแล้ว ซิดนีย์จะไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศออสเตรเลียก็ตาม ที่ซิดนีย์มีท่าเรือสวยงาม อากาศสดใส ชายหาดและร้านอาหารดีๆจำนวนมาก บาร์และสถานบันเทิง และสถานที่ท่องเที่ยว ที่นี่ยังมีการผสมผสานของเชื้อชาติกลุ่มต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตทางวัฒนธรรมของเมืองนี้ ซิดนีย์จึงเป็นสุดยอดเมืองนานาชาติของออสเตรเลีย
              รัฐ NSW แบ่งคร่าวๆ ได้เป็นสี่ภูมิภาค ได้แก่ แนวชายฝั่ง เทือกเขาเกรตดีไวดิ้งเรนจ์ ที่ตั้งอยู่ในตัวทวีปห่างจากฝั่งราว 100 กม. ภูเขาบลูเมาเทนด้านตะวันตกของนครซิดนีย์ และภูเขาสโนวีเมาเทน ทางทิศใต้ ทางตะวันตกของเทือกเขาเกรตดีไวดิ้งเรนจ์ คือแถบชนบทที่ทำฟาร์ม เป็นที่ราบ แห้งแล้ง และปกคลุมพื้นที่ 2 ใน 3 ส่วนของรัฐ ที่ราบจะจางหายเข้าไปในเขตร้างผู้คนที่อยู่ไกลออกไปทางตะวันตก ซึ่งมีอุณหภูมิในฤดูร้อนที่อาจขึ้นสูงถึงเกิน 40 องศาเซลเซียส แม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำเมอเล่ย์และแม่น้ำดาร์ลิงค์ ซึ่งคดเคี้ยวไปมาสู่ทิศตะวันตกผ่านที่ราบ
             Sydney เป็นเมืองที่อากาศสดใสมีแสงแดดมากกว่า 300 วันต่อปี เหมาะแก่การท่องเที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามตลอดทั้งปี ในฤดูร้อนอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียสและมีอากาศชื้น ในฤดูหนาว อุณหภูมิอาจต่ำลงถึง 10 องศาเซลเซียส แต่โดยทั่วไปอากาศจะอยู่ที่ 20 องศาเซลเซียส และมีความชื้นพอสมควร Sydney จึงเหมาะแก่การทำกิจกรรมต่างๆ
            
               ฤดูใบไม้ผล ตั้งแต่เดือนกันยายน - พฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศดีเพราะเพิ่งจะผ่านหน้าหนาว มา เป็นช่วงที่ดอกไม้ผลิสวยงาม ผู้คนนิยมไปอาบแดด เล่นเวฟกันตามชายหาดต่างๆ
               ฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง คนที่กลัวแดดเผา แนะนำว่าควรจะทาครีมกันแดดเพราะแดดแรงกว่าที่เมืองไทยมาก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้ชาวออสซี่หลายคนเป็นมะเร็งผิวหนังกันมาก
             ฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่เดือนมีนาคม - พฤษภาคม ช่วงนี้อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ อาจมีฝนตกบ้างในบางครั้ง ในช่วงตอนกลางคืนควรจะสวมเสื้อคลุม เพราะอาจมีลมแรงและอากาศจะหนาว
            ฤดูหนาว ตั้งแต่เดือนมิถุนายน - สิงหาคม เป็นช่วงที่หนาวจัด ควรเตรียมผ้าพันคอ ถุงมือและถุงเท้าที่หนาๆ หรือสวมหมวกด้วยก็จะช่วยได้มาก แต่ในตัวเมืองซิดนีย์เองจะไม่มีหิมะตก อากาศจะอยู่ที่ประมาณ 5-18 องศา จะหนาวจัดในช่วงกลางคืน ควรทาครีมบำรุงผิวเพื่อจะช่วยป้องกันผิวแห้งแตก เพราะอากาศจะแห้งมาก
    Sydney Opera House
    Sydney Opera House
    เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นสถาปัตยกรรมรูปทรงคล้ายหอยเชลล์มาบ้างแล้วจากทีวี ภาพยนตร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของออสเตรเลียก็ว่าได้ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยว แวะเวียนมาแชะรูปถ่ายกันตลอดเวลา ไม่ขาดสายเลยค่ะและภายใน Sydney Opera House ก็จะประกอบไปด้วยส่วนของศาลาคอนเสิร์ต โรงละคร ภัตตาคาร และศูนย์วัฒนธรรม แห่งชาติของประเทศออสเตรเลียและยังเป็นจุดชมวิวชมวิวที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน และถ้าใครมาซิดนีย์แต่ไม่มาที่ Opera House ก็เท่ากับว่ามาไม่ถึง เพราะที่นี่เป็นหัวใจหลักเลยก็ว่าได้
            Sydney Opera House ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ปลายแหลมของผืนดินที่ยื่นออกไปในทะเลเล็กน้อย โดยมีน้ำทะเลล้อมรอบอยู่ถึง 3 ด้าน Opera House มองดูเหมือนเรือ แม้ว่าแรงบันดาลใจของผู้ออกแบบจะมาจากการปอกเปลือกของผลส้มแมนดารินก็ตาม ต้องถือว่า Sydney Opera House เป็นสัญลักษณ์ของนครซิดนีย์เลยทีเดียว ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน Opera House แห่งนี้ถูกถ่ายรูปมาแล้วนับพันๆล้านครั้ง นอกจากความเลอเลิศของรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่จะสร้าง ความประทับใจให้ทุกคนที่มาเยือนจนอยากจะมาอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าแล้ว
            Sydney Opera House มีประวัติคือ ก่อนที่จะมีการก่อสร้าง Sydney Opera House ขึ้น ซิดนีย์ไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมเพียงพอในการเปิดแสดงดนตรีและการแสดงต่างๆ ชาวเมืองใช้ที่ว่าการของเมืองเป็นที่จัดแสดง แต่เวทีการแสดงก็ยังไม่มีความสมบูรณ์และเหมาะสมอยู่ดี เมื่อ Sir Eugene Goosens ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าวาทยากรของวงดุริยางค์ Sydney Symphony Orchestra และดำรงตำแหน่งกรรมการของ NSW Conservatorium of Music ในปี 1947 จึงได้มีแนวความคิดที่จะสร้างสถานที่จัดแสดงทางศิลปะแห่งใหม่ ซึ่งรวมถึงการแสดงคอนเสริต ดุริยางคศิลป์และโอเปร่า เข้าด้วยกันในที่ที่เดียว ซึ่งควีนอลิซาเบท ที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด Sydney Opera House อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ตุลาคม 1973 นับตั้งแต่เริ่มเปิดให้มีการแสดงในปี 1973 Sydney Opera House มีการจัดการแสดงหลากหลายประเภทมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน สรรค์สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนนับล้านๆคนจากทั่วโลก และเป็นที่ที่ศิลปินที่มีชื่อเสียงต้องการได้รับโอกาสมาเปิดการแสดงอย่าง น้อยสักครั้งในชีวิต โดยเฉลี่ยแล้วในปีๆหนึ่งจะมีการแสดงทุกประเภทรวมกันประมาณ 3,000 รายการ และมีผู้ชมประมาณ 2 ล้านคน
            นอกจาก นี้ Sydney Opera House ได้รับการคัดเลือกจาก การประชุม ยูเนสโกที่ประเทศนิวซีแลนด์ให้เป็นมรดกโลกแห่งล่าสุด เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2550 อีกด้วย
    Sydney Harbour Bridge
     Sydney Harbour Bridge
    เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของ Sydney ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ที่นี่เขามีบริการ Climbing Bridge ซึ่งก็คือการไต่สะพาน Harbour นี้เอง ซึ่งบรรดานักท่องเที่ยวจะมาท้าทายความตื่นเต้น เพราะสะพานแห่งนี้สูงถึง 134 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล (ถ้าใครอยากทดสอบความกล้าก็มาทดสอบได้ว่าคุณกล้าแค่ไหน) การปีนสะพานเหล็กแห่งนี้เป็นทางเลือกที่น่าลองทีเดียว สามารถซื้อตั๋วราคาไม่ถูกเลยได้ที่นี่ ก่อนจะเริ่มการปีนป่ายจะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ออกแบบมาพิเศษเพื่อ ใช้ปีนสะพานนี้โดยเฉพาะ ชุดที่ว่านี้มีอุปกรณ์ป้องกันที่จะไม่ให้ตัวเราและชิ้นส่วนของเราไม่ว่าจะ เป็นอะไรก็ตามหลุดลงไปข้างล่างระหว่างที่การปีนป่ายกำลังดำนินไป แม้แต่คนที่สวมแว่นตาก็จะมีเครื่องยึดแว่นตาของคุณเอาไว้ไม่ให้หลุด ทุกคนในกลุ่มซึ่งประกอบด้วยคนประมาณ 12 คนจะถูกยึดติดกันด้วยสายเคเบิ้ลแข็งแรง เคยมีคนพูดให้ฟังว่า แม้แต่คนที่ต้องการฆ่าตัวตายก็ยังไม่มีทางทำได้เลย ปลอดภัยแค่ไหนก็ลองคิดดูเอาเองก็แล้วกัน
         ก่อน ที่จะเดินทางออกจากจุดเริ่มต้นจะมีเจ้าหน้าที่มาอธิบายทบทวนวิธีการปีนให้ ปลอดภัย และเตรียมพร้อมต่อการปีนออกกำลังกายในที่สูง รวมถึงมาตรการที่จะทำให้ปลอดภัยมากที่สุดซึ่งคุณต้องปฏิบัติตามอย่าง เคร่งครัด ระหว่างการปีนจะมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญติดตามไปกับกลุ่มอย่างใกล้ชิดด้วย เมื่อไปถึงจุดสูงสุดตรงยอดกลางของสะพานที่ความสูง 134 เมตรจากระดับอ่าวข้างล่าง คุณจะได้ถ่ายรูปที่มีบริการเพื่อเป็นที่ระลึกและนำมาอวดคนที่บ้านและเพื่อนๆ ที่ยังไม่มีโอกาสไป ก่อนที่จะค่อยๆปีนลงมายังอีกด้านหนึ่งของสะพาน การปีนสะพานใช้เวลาทั้งหมดราว 3 ชั่วโมงครึ่ง คนดังหลายคนที่เคยมาปีนสะพานแห่งนี้แล้วมีอาทิ เจ้าชาย แฮรี่ Matt Damon, Kylie Minoque, Cathy Freeman, Pat Rafter เป็นต้น
              สำหรับ ผู้ที่สุขภาพไม่พร้อมที่จะปีนป่ายขึ้นไปยังที่สูงชันดังกล่าว ยังสามารถเลือกได้ที่จะแต่งเติมประสบการณ์อีกแบบหนึ่งด้วยการลองเดินข้าม สะพานโดยใช้ทางเดินที่จัดเอาไว้จากปลายด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่งของสะพาน สะพานแห่งนี้ผ่านยุคสมัยการสัญจรของผู้คนมาหลายทศวรรษ มนต์เสน่ห์เก่าๆยังมีอยู่ต็มเปี่ยม ยามเมื่อคุณได้เดินทอดน่องบนสะพานชมทัศนียภาพของเมือง เมื่อมองจากทางเดินบนสะพานคุณจะเห็นวิวของซิดนีย์ในมุมมองที่แปลกออกไป ครั้นเมื่อทอดสายตาชมอ่าว เรือยอร์ชและเรือเฟอรี่ที่วิ่งขวักไขว่ในบริเวณอ่าว ฟองและยอดเกลียวคลื่นเล็กๆบนผิวน้ำเมื่อเรือแต่ละลำแทรกกายพุ่งไปข้างหน้า แต่งแต้มให้ผืนน้ำและท้องฟ้าของอ่าวตระการตาจนยากที่จะละสายตาจากไป เพราะที่นี่จะอยู่ใกล้กับ Sydney Opera House ใกล้แค่เอื้อม
             สะพาน Harbor Bridge เป็นสะพานที่กว้างที่สุดในโลก (แต่ไม่ยาวที่สุด) เป็นสัญลักษณ์อีกอันหนึ่งของ ออสเตรเลีย โดยใช้เวลาสร้างทั้งหมด 8 ปี มีความสูง 134 เมตรจากระดับน้ำทะเล สร้างจากเหล็กจำนวน 52,000 ตัน ใช้สีทาสะพาน 272,000 ลิตร และมีคนจำนวน 1,400 คนที่มีส่วนในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ และSydney Harbour Bridge เพิ่งจะฉลองครบรอบ 75 ปี Sydney Harbour Bridge ในวันที่ 18 มีนาคม 2007 
    Blue Mountains
      Blue Mountains
    เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง อยู่ห่างจากตัวเมืองซิดนีย์ไปทางใต้ราว 2 ชั่วโมงด้วยการขับรถในความเร็วปกติ การเดินทางมาชมเสน่ห์ของขุนเขาแห่งนี้สามารถทำได้หลายวิธี เช่นอาจจะใช้บริการรถไฟที่จะมีขบวนรถออกจาก เซ็นทรัลสเตชั่นทุกๆชั่วโมง และในอีก 2 ชั่วโมงต่อมาเมื่อถึงสถานี คาทุมบา (Katoomba Station) ก็มาต่อด้วย Explorer Bus ซึ่งให้บริการออกจากสถานีรถไฟคาทุมบาทุกๆชั่วโมงเช่นกัน เริ่มจากเวลา 9.30 น. จนถึงเวลา 16.30 น. การซื้อตั๋วแบบรวมทั้งรถไฟและรถบัสก็มีให้เลือกในราคาน่าสนใจทีเดียว
               Blue Mountains เป็นดินแดนที่สร้างสรรค์จากผลงานตามธรรมชาติ มีเทือกเขามากมายที่ให้เราชม เทือกเขาที่เด่นสุดของที่นี่คือ เทือกเขา ทรี ซีสเตอร์ ร็อกส์ (Three Sister Rocks) หรือเรียกกันว่า เขาสามอนงค์ โดยเทือกเขานี้จะมีภูเขาทั้ง 3 ลูกเรียงกัน ที่นี่เหมาะแห่งการชมพระอาทิตย์ตกดิน เพราะจะสวยเป็นพิเศษเหมาะแห่งการถ่ายรูป (อย่าลืมเอากล้องไปด้วยนะเดี๋ยวหาว่าไม่บอก)
    ตำนานของ The Three Sisters
              The Three Sisters ยอดเขาสามยอด หรือสามใบเถา แห่งเทือกเขาบลูเมาร์เท่น นับว่าเป็นจุดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้ มีตำนานของชาวพื้นเมืองเล่าขานกันมาว่า
    กาลครั้งหนึ่ง ณ เทือกเขาแห่งนี้ เป็นที่อยู่ของชายคนหนึ่งชื่อ ทยาวัน (Tyawan) เขามีลูกสาวสวยอยู่ 3 คนคือ มีนนี (Menhi) วิมาลา (Weemalah) และกันนีดู (Gunnedoo) ทยาวันมีกระดูกวิเศษอยู่ชิ้นหนึ่งซึ่งทำให้เขาสามารถแปลงร่างเป็นนกไลเออ เบิร์ด (Lyrebird)ได้ ทุกครั้งที่เขาออกไปล่าสัตว์ ทยาวันจะสั่งลูกสาวทั้งสามให้ไปอยู่บนหน้าผาสูงและห้ามไม่ให้ไปไหนจนกว่าเขา จะกลับมา ทั้งนี้เพื่อให้ปลอดภัยจาก “บันยิบ” วิญญาณที่ทรงอำนาจซึ่งอาศัยอยู่ในหุบเขาลึกเบื้องล่าง
             วัน หนึ่งสาวน้อย มีนนี เกิดเอาหินไปเคาะที่หน้าผา เป็นเหตุให้เกิดแผ่นดินเคลื่อน ปลุกวิญญาณของบันยิบขึ้นมา และเมื่อบันยิบมองเห็นเด็กสาวทั้งสามเกาะกันอยู่บนหน้าผา จึงขึ้นไปหา ทยาวัน พ่อของเด็กสาวทราบเรื่อง แต่ไม่สามารถเดินทางไปช่วยลูกได้ทัน จึงเลือกวิธีเสกให้ลูกสาวกลายเป็นหินไปพลางๆก่อน บันยิบจึงหันมาเล่นงานพ่อแทน ทยาวันแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆเพื่อไม่ให้บันยิบตามหาพบ ท้ายสุดเขาแปลงร่างเป็นนกไลเออเบิร์ด โดยใช้กระดูกวิเศษที่มีอยู่ แต่ในขณะที่มือของทยาวันกลับกลายเป็นปีกนกนั่นเอง กระดูกวิเศษได้หลุดลอยออกจากมือของเขาไป
            บันยิบเลิกตามหาทยาวันและกลับไปยังที่พักของมันตามเดิม แต่อนิจจา ทยาวันยังคงเป็นนกไลเออเบิร์ดที่บินวนเวียนอยู่ในหุบเขาอยู่นั่นเอง และลูกสาวทั้งสามก็ยังคงเป็นหินอยู่ตามเดิม จนกว่าทยาวันจะหากระดูกวิเศษพบและแปลงร่างกลับกลายมาเป็นคน จึงจะคลายมนต์ให้ลูกสาวทั้งสามกลับกลายมาเป็นมนุษย์เช่นเดิมได้

    A Floral Feast For The Eyes, Royal Flora Ratchaphruek

                 Nida Sampattavanich
            Since its inauguration in 2006, large sections of the Thai population eagerly anticipate Chiang Mai’s annual floral extravaganza, which was launched as the International Horticultural Exposition, but is now better known as Royal Flora Ratchaphruek
            Royal Floral Ratchaphruek 2011, which highlights the best of the country’s flora and plant life, officially opened last week and will continue through March 14 (2012). Among the colorful displays are layouts produced by landscape garden designers from 32 nations.
           Following the International Horticultural Exposition in 2006, the 468-rai (74.8-hectare) park area was reopened in 2008 as Royal Park Ratchaphruek, so visitors could learn more about the country’s agriculture and its rich supply of tropical botany. The park welcomes domestic and international tourists, who are sure to be impressed by the diversity of the flora and the variety of tropical plants on display, gathered from various parts of the country. 
    Playful Personalities
            On arrival at the Royal Floral Ratchaphruek 2011, you’ll be greeted by five colorful mascots, which were designed to reflect nature’s five elements that all have a significant impact upon the lives of plants. The mascots are known as Nong Khun (representing a Ratchaphruek flower), Lom Bin (the wind), Din Chum (fertile soil), Num Sai (water) and Ai Un (sunlight).

            The most prominent zone apparent to visitors on their arrival is a collection of gardens designed and maintained by the Thai government and private organizations. Many of these gardens were designed to honor His Majesty King Bhumibol Adulyadej and the Royal Family’s contribution to the development of the people’s quality of life through agriculture. The 92-day-long event has been organized to commemorate three auspicious occasions – the 84th Birthday Anniversary of His Majesty the King, the 80th Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit and the 60th Birthday Anniversary of His Royal Highness Crown Prince Maha Vajiralongkorn.  
    International Participation
             You will discover an incredible array of gardens produced by designers from numerous nations, including Bangladesh, Belgium, Bhutan, Canada, Indonesia, Kenya, Morocco, Mauritania, Pakistan, Qatar, Spain, Taiwan and Yemen, among others. I was particularly impressed by an Indian designer’s garden, which is dominated by a unique shade of maroon and has a large statue of Ganesha as its centerpiece (see photo, left).

          While many folks would expect to see lots of tulips in a garden developed by the Netherlands, they might be rather surprised to find a windmill surrounded by a rare form of orange lily, which is proudly presented as another eye-catching plant native to Holland.
            The exposition includes a tropical dome, which is a great place to discover a large variety of exotic plants, such as orchids and the rare Gaping Dutchman’s pipe (Aristolochia ringens), which, as its name suggests, resembles a pipe.
          If you head along an elevated path, you'll be rewarded with a bird’s eye view of the gardens. The size of some of the plants will truly astound you, especially the white elephant palm, which has leaves large enough to completely cover an adult human (see photo, right). 
          For something a little different, you can pay the fair a visit during the evening, which is when the Imagination Light Garden is illuminated by tens of thousands of solar-powered LED lights. Other highlights that are sure to appeal to children are a 40-meter-tall Giant Floral Wheel and a Kid’s Eco Park, which is an 'edutainment'-style exhibition aimed at kids.      http://www.royalflora2011.com.
    http://www.unitefl.com


    credit : http://www.tannetwork.tv 

    SBS จะต้องเปลี่ยนพิธีกรในงาน 2011 Gayo Daejun?[23-12-2011]


    111223SBS
    ทางสถานี SBS จะจัดรายการ 2011 Gayo Daejun ในคืนวันที่ 29 ธันวาคมออกอากาศสดเวลา 20.50 น.
    ตัวแทน ของทางสถานี SBS เปิดเผยว่า “พวกเรากำลังเตรียมการแสดงบนเวทีที่มีศิลปินกระแสคลื่นเกาหลีมาร่วมงาน ก็คล้ายๆ กับงานก่อนๆ ของพวกเรา โดยนักร้องต่างๆ จะมาร่วมกันแสดงบนเวที รายละเอียดยังไม่ได้สรุปกัน แล้วพิธีกรก็ยังไม่ได้มีการยืนยันแน่นอน”
    คิมฮีชอล (Kim Hee Chul) จากวง Super Junior และจองยองฮวา (Jung Yong Hwa) จากวง C.N. Blue เป็นพิธีกรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้คิมฮีชอลกำลังเป็นทหารอยู่ในกองทัพ และจองยองฮวาก็ติดตารางงานอื่นด้วย ทาง SBS จึงต้องหาพิธีกรใหม่
    ซึ่ง จองยองฮวาจะแสดงในฐานะสมาชิกในวง C.N. Blue ในงานนี้ ตัวแทนของเขาอธิบายว่า “วง C.N. Blue จะเริ่มทัวร์ในแถบเอเชียในเดือนหน้า ดังนั้นตารางงานของพวกเขาจึงถูกจัดไว้ก่อนแล้ว”
    ใน เวลานี้ศิลปินที่จะมาร่วมงานนี้มี วงดงบังชินกิ (TVXQ), 2PM, Super Junior, 2NE1, SNSD, Wonder Girls, KARA, B2ST, CNBLUE, F.T. Island, Brown Eyed Girls, T-ara, miss A, f(x), ลีซึงกิ (Lee Seung Gi), IU, คิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong), After School, MBLAQ, INFINITE, Dal Shabet, Boyfriend, A Pink, B1A4, SECRET, 4minute, G.NA, SISTAR, Davichi, K.Will, TEEN TOP, Rainbow และ U-KISS. (รายชื่อศิลปินอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
    http://www.blike.net

    แบซูบิน (Bae Soo Bin) เตรียมรับบทนำในภาพยนตร์ผลงานการกำกับเรื่องแรกของยูจีแท (Yoo Ji Tae) [ 24-12-2011 ]

    นักแสดงหนุ่มแบซูบิน (Bae Soo Bin) ได้รับบทนำในภาพยนตร์ผลงานการกำกับเรื่องแรกของยูจีแท (Yoo Ji Tae)
    ใน วันที่ 23 ธันวาคม BH Entertainment ได้เปิดเผยข้อมูลว่า แบซูบินกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาเพื่อมารับบทนำในภาพยนตร์ เรื่องนี้ 'เป็นไปได้อย่างมากว่าเขาจะได้มาร่วมงานในภาพยนตร์ของยูจีแทที่มีชื่อว่า 'Sansevieria' ครับ'
    ถ้าแบซูบินตกลงที่จะรับงานแสดงในภาพยนตร์ เรื่องนี้ เขาจะได้รับบทเป็นชายหนุ่มที่ได้เดินทางผจญภัยร่วมกับหญิงสาวที่มาจากประเทศ ฟิลิปปินส์
    อนึ่ง ในขณะนี้แบซูบินกำลังถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 'The Man of White Porcelain' ที่ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับนักแสดงหนุ่ม Yu Yoshizawa
    ข้อมูลจาก
    http://www.popcornfor2.com

    วง C.N. Blue จะเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่แสดงใน Unplugged! [23-12-2011]


    111223CNBlue
    วง C.N. Blue จะเป็นศิลปินเกาหลีกลุ่มแรกที่แสดงใน Unplugged ของทาง MTV
    ใน วันที่ 22 ธันวาคมทาง Warner Music Japan เปิดเผยว่า ในวันที่ 31 มกราคมวง C.N. Blue จะเป็นตัวแทนของเกาหลีไปร่วมกิจกรรม Billboard Live Tokyo ที่อะคาซากะ กรุงโตเกียว โดยที่วง C.N. Blue แสดงความคิดเห็นว่า “พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากในการที่ได้ร่วมกิจกรรมที่ศิลปินชื่อดัง มากมายมาร่วมแสดงก่อน พวกเราตื่นเต้นมาก แต่พวกเราจะพยายามและทำให้ทุกคนได้สนุกเต็มที่ครับ”
    งาน Unplugged ที่เป็นไลฟ์แบบอะครูสติคนี้เริ่มครั้งแรกในปี 1989ที่นิวยอร์ค โดยที่เคยมี Mariah Carey และ Eric Clapton แสดงมาแล้ว
    ด้วย เพลง In My Head ของวง C.N. Blue ที่เปิดตัวและติดชาร์ตโอริก้อนประจำสัปดาห์อันดับ 4 และมียอดจำหน่ายมากถึง 100,000 ชุดในสัปดาห์แรก ไม่เพียงแค่นั้น แต่พวกเขายังจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตของพวกเขาหมดในช่วงต้นสัปดาห์นี้
    แล้วพวกเขาจะแสดงในงาน Countdown Japan ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้
    ที่มา http://www.blike.net

    ปาร์คซิฮู (Park Si Hoo) ถ่ายภาพใน L’Officiel Hommes[23-12-2011]


    111222ParkSiHoo
    ปาร์ค ซิฮู (Park Si Hoo) ที่โด่งดังจากบทของเขาในละครเรื่อง The Princess’ Man และเขาได้ทำให้ทุกๆ คนช็อคจากการถ่ายภาพของเขาล่าสุดใน L’Officiel Hommes ที่โชว์หุ่นแมนๆ ของเขา
    นอกจาก นั้นยังมีการสัมภาษณ์เขาอีกด้วย โดยที่เขากล่าวว่า “ผ่านมา 4 ปีแล้วจากการที่ผมมีความสัมพันธ์กับใครสักคน ผมทำงานอย่างต่อเนื่องและทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับผมในการที่จะคบกับใครสัก คนครับ ผมชอบเวลาที่ผมได้พบผู้หญิง ที่สนใจในกันและกันแบบพร้อมๆ กัน มีผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมเดทนานถึง 4 ปี และผมเป็นคนเข้าหาเธอก่อน ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้จักเธอครับ”
    นอกจาก นั้นสิ่งที่เขาทำให้ทุกคนสนใจมากสำหรับอายุ 30 ปีของเขาว่า “ถึงแม้ว่าตอนที่ผมอายุน้อยกว่านี้ ผมก็ยังพยายามทำให้ต่อเนื่องในระยะเวลานานๆ มากกว่าทำเต็มที่แล้วเลิกครับ เมื่อไรที่ผมเริ่มต้น ผมก็จะต้องทำให้เสร็จ แล้วก็ไม่เคยยกเลิกกลางคันครับ”
    เมื่อ ถามเกี่ยวกับงานอดิเรกปัจจุบันของเขา เขาตอบว่า “ผมมองหา RV ทางอินเทอร์เน็ท แต่ผมไม่สามารถซื้อได้ เนื่องจากมันราคาสูงเกินไป แต่ผมอยากได้แบบเล็กๆ ครับ”
    ภาพของเขาจะตีพิมพ์ในฉบับปักษ์เดือนมกราคม 2012
    http://www.blike.net